DJI Osmo Mobile 2 อุปกรณ์กันสั่นรุ่นใหม่กับ 9 ฟีเจอร์สุดเจ๋ง

DJI Osmo Mobile 2 เป็นอุปกรณ์กันสั่นที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นแรก ซึ่งถือว่าได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานจำนวนมาก ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบที่ทันสมัยและประสิทธิภาพสูง โดย Osmo Mobile 2 นั้นถูกพัฒนาให้สอดคล้องกับการใช้งานของกลุ่มคนที่นิยมใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพหรือวีดีโอมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการ Live Streaming บนสื่อโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook Live หรือ Youtube Live

 

DJI Osmo Mobile 2 Share Your Story


DJI Osmo Mobile 2 ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงแบตเตอรี่ให้มีระยะเวลาในการใช้งานที่นานขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ทำให้คุณสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 15 ชั่วโมง และยังสามารถแบ่งพลังงานไปให้สมาร์ทโฟนเหมือนกับพาวเวอร์แบงค์ขนาดพกพาได้อีกด้วย

DJI Osmo Mobile 2 Intelligent Controls


DJI Osmo Mobile 2 มีรูปทรงภายนอกไม่แตกต่างจากรุ่นแรกมากนัก มีน้ำหนักเพียง 485 กรัม ตรงด้ามจับมีสถานะไฟบอกปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ ปุ่มกดสำหรับควบคุมการซูมเข้าออกถูกแยกออกมาไว้ด้านข้างของตัวด้าม และจุดที่เด่นที่สุดของ Osmo Mobile 2 คือ ชุดกิมบอล (Gimbal) ที่สามารถจับสมาร์ทโฟนได้อย่างแน่นหนากว่าเดิม และยังสามารถปรับชุดกิมบอล (Gimbal) ให้เป็นแนวตั้งหรือแนวนอนได้ เพื่อใช้ถ่ายภาพหรือวีดีโอในแบบที่คุณต้องการ และนี่คือ 9 ฟีเจอร์สุดเจ๋ง ที่มาพร้อมกับเจ้า Osmo Mobile 2

1. Active Track

เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถล็อคตำแหน่งวัตถุหรือบุคคลที่คุณต้องการที่จะให้กล้องติดตาม ด้วยวิธีง่ายๆเพียงคุณแตะลากกรอบสี่เหลี่ยมสีเขียว บริเวณวัตถุหรือบุคคลที่คุณเลือก จากนั้นกล้องจะแพนติดตามวัตถุหรือบุคคลนั้นในขณะที่มีการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ

 

2. Timelapse

เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพนิ่งหลายๆภาพ ตามที่คุณต้องการจากนั้นแอปพลิเคชัน DJI Go จะประมวลผลภาพนิ่งเหล่านั้นออกมาเป็นวีดีโอให้โดยอัตโนมัติ

 

3. Motion Timelapse

เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพนิ่งหลายๆภาพ ตามที่คุณต้องการเช่นเดียวกับโหมด Timelapse แต่ในโหมด Motion Timelapse จะสามารถเลือกตำแหน่งในการแพนกล้องจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้สูงสุดถึง 5 จุด จากนั้นแอปพลิเคชัน DJI GO จะประมวลผลภาพนิ่งเหล่านั้นออกมาเป็นวีดีโอให้โดยอัตโนมัติ

 

4. Hyperlapse

เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพนิ่งหลายๆภาพ ตามที่คุณต้องการเช่นเดียวกับโหมด Timelapse แต่ในโหมด Hyperlapse จะต่างกันตรงที่คุณจะสามารถถ่ายภาพในขณะที่คุณเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระในระหว่างการถ่ายภาพ จากนั้นแอปพลิเคชัน DJI GO จะประมวลผลภาพนิ่งเหล่านั้นออกมาเป็นวีดีโอให้โดยอัตโนมัติ

 

5. Panorama

เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกการถ่ายภาพแบบ Panorama ได้ถึง 3 แบบด้วยกัน คือ พาโนราม่า 180 องศา, พาโนราม่า 330 องศา และพาโนราม่าแบบ 3x3 โดยแอปพลิเคชัน DJI GO จะทำการถ่ายภาพและเชื่อมต่อภาพให้อัตโนมัติ

 

6. Slow Motion

เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถถ่ายวีดีโอในแบบ Slow Motion ได้

 

7. Live Streaming

คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ Live Streaming ผ่านแอปพลิเคชัน DJI GO ได้ทันที โดยสามารถเลือกได้ทั้ง Facebook Live หรือ Youtube Live

 

8. Battery Time 15 Hrs

คุณสามารถใช้งาน Osmo Mobile 2 ต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมง ปริมาณความจุแบตเตอรี่ 2600 mAh

 

9. Zoom Control

การดีไซน์ให้มีปุ่มซูมกล้องเข้า-ออกที่ด้ามจับ แทนการซูมแบบเก่าที่ต้องสั่งงานผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน ทำให้สะดวกในการใช้งานเพียงนิ้วหัวแม่มือสไลด์ คุณจะได้ภาพถ่ายและวีดีโอที่ราบรื่นในทุกๆช็อตตามที่คุณต้องการ



Osmo Mobile 2 มาพร้อมกับเทคโนโลยีกันสั่น 3 แกน หมุนอิสระ เพิ่มความนุ่มนวลในการถ่ายวีดีโอด้วยสมาร์ทโฟน และสามารถควบคุมได้ทุกทิศทางเพียงปลายนิ้วสัมผัส แอปพลิเคชั่น DJI Go ช่วยขยายขีดความสามารถ ในหลายๆฟังก์ชั่นของการทำงาน สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนทั้งระบบ IOS และ Android และที่พิเศษกว่านั้น Osmo Mobile 2 ยังมีราคาถูกกว่ารุ่นก่อนมากๆ ทำให้คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายๆด้วยราคาโปรโมชั่นจากราคา 5,000 บาท เหลือเพียง 4,450 บาท เท่านั้น

 


แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE