กล้องขนาดเล็กกะทัดรัดที่มาพร้อมกับอุปกรณ์กันสั่น ที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง ด้วยความสามารถของการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K/60fps และมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานมากมาย ทำให้ Osmo Pocket กลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับบรรดา Vlogger หรือผู้ใช้งานทั่วไปที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ สามารถพกพาติดตัวไปตามสถานที่ต่างๆได้ตลอดเวลา วันนี้ DJI13Store จะมาแนะนำ 10 กลเม็ดเด็ด ของการใช้งานขั้นพื้นฐานที่จะทำให้คุณรู้จัก DJI Osmo Pocket มากยิ่งขึ้น
1. Camera Controls (การควบคุมกล้อง)
แตะและลากแถบเลื่อนที่อยู่ด้านขวามือของหน้าจอ Osmo Pocket เพื่อปรับทิศทางกล้องขึ้นและลง
สำหรับการควบคุมกล้องขั้นสูง ทำการเชื่อมต่อ Osmo Pocket เข้ากับสมาร์ทโฟนของคุณผ่านแอปพลิเคชัน DJI Mimo เพื่อเปิดการใช้งาน Gimbal Easy Control คุณจะสามารถควบคุมทิศทางของกล้องได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
2. Recenter the Gimbal (ปรับกล้องกลับจุดเซ็นเตอร์)
คุณสามารถกดที่ปุ่ม Power/Function สองครั้ง เพื่อทำการปรับเลื่อน Gimbal ให้กลับมาที่ตำแหน่งเซ็นเตอร์ หรือทำการแตะที่ไอคอน Recenter บนแอปพลิเคชัน DJI Mimo ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
3. Flashlight Mode (โหมดไฟฉาย)
คุณสามารถถือ DJI Osmo Pocket ใช้งานในโหมดไฟฉาย (Flashlight Mode) เพื่อใช้ประโยชน์จากขนาดที่เล็กกะทัดรัดของ Osmo Pocket ให้คุณสามารถถ่ายภาพในที่แคบ หรือพื้นที่ที่มีขนาดเล็กได้
4. Ensure Sound Quality (เสียงที่มีคุณภาพ)
คุณภาพเสียงของวิดีโอที่บันทึกด้วย Osmo Pocket ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณควรตรวจดูว่าคุณถือ Osmo Pocket อย่างถูกต้องหรือไม่ เมื่อคุณทำการบันทึกวิดีโอ อย่าลืมว่าไม่ควรจับทับบริเวณ 2 ตำแหน่งนี้ตามภาพด้านล่าง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด
5. Switch between AFC and AFS (สลับไปมาระหว่าง AFC และ AFS)
กดสลับระหว่างโหมด Autofocus Continues (AFC) และ Autofocus Single (AFS) ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังถ่ายฉากที่มีการเคลื่อนไหวหรือไม่ คุณสามารเข้าไปเปลี่ยนโหมดดังกล่าวได้โดยตรงในการตั้งค่าของ Osmo Pocket
หรือในการตั้งค่ารูปถ่ายบนแอปพลิเคชัน DJI Mimo
ใช้ AFC สำหรับถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวมากๆ และใช้ AFS สำหรับการถ่ายภาพที่มีข้อจำกัดหรือไม่มีการเคลื่อนไหว
6. Exposure Adjustments (การปรับระดับแสง)
มีอยู่สองวิธีในการหลีกเลี่ยงภาพที่สว่างหรือมืดเกินไป เช่นเดียวกับแอปพลิเคชัน DJI GO และ DJI GO 4 คุณสามารถปรับการตั้งค่าการเปิดรับแสงบนแอปพลิเคชัน DJI Mimo ได้ด้วยทั้งแบบแมนนวลหรือแบบออโต้ เมื่อเลือกใช้งานโหมดแมนนวลให้เปลี่ยนค่า ISO ความเร็วชัตเตอร์ หรือค่า Exposure จนกว่าภาพของคุณจะไม่สว่างหรือมืดเกินไป
หากคุณเลือกใช้งานโหมดปรับแสงอัตโนมัติ ให้คุณแตะที่บริเวณต่างๆของหน้าจอสมาร์ทโฟนจนกว่าจะได้ค่าแสงที่เหมาะสม ใช้นิ้วของคุณแตะค้างไปยังพื้นที่ที่ต้องการจะปรับแสงจนกระทั่งมีไอคอนปรากฏขึ้นที่มุมซ้ายล่างของกรอบสีเหลือง
7. Change Image Ratio (ปรับอัตราส่วนภาพ)
อัตราส่วนของภาพที่แตกต่างกันทำให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดองค์ประกอบภาพ นี่เป็นเหตุผลที่ Osmo Pocket รองรับภาพในอัตราส่วน 16:9, 4:3 และ 3:2
คุณสามารถเปลี่ยนอัตราส่วนภาพเมื่อเปิดใช้งานโหมด PRO หรือเข้าไปตั้งค่าบนแอปพลิเคชัน DJI Mimo
8. Activate Gridlines (เปิดใช้งานฟีเจอร์ Gridlines)
กฎขั้นพื้นฐาน 1 ใน 3 ข้อที่ช่วยให้สามารถค้นหาองค์ประกอบที่ดีสำหรับภาพถ่ายของคุณ คือเปิดใช้งานฟีเจอร์ Gridlines บนแอปพลิเคชัน DJI Mimo จากนั้นวางวัตถุหลักที่ต้องการโฟกัสตามเส้นหรือจุดตัดที่คุณต้องการ
9. Like Footage in Gallery (กดถูกใจภาพในคลังภาพ)
ในแกลเลอรี่หรือคลังภาพ คุณสามารถกดถูกใจรูปภาพและวิดีโอเอาไว้ได้ ซึ่งภาพที่กดถูกใจจะถูกแสดงแยกออกจากรูปภาพและวิดีโออื่นๆ ที่คุณไม่ได้กดถูกใจเอาไว้ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากโดยเฉพาะกับการถ่ายภาพในทริปที่ต้องใช้เวลานาน แม้ว่าคุณจะมีการจัดเก็บภาพจำนวนมาก แต่มั่นใจได้ว่าคุณจะเจอภาพที่ถูกใจภายในเวลาไม่นาน
10. Charge While You Shoot (ชาร์จแบตเตอรี่ในขณะถ่ายทำ)
ในขณะที่คุณกำลังใช้งานอยู่ หากคุณสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่ของ Osmo Pocket ต่ำ แต่คุณจำเป็นต้องทำการบันทึกภาพต่อ คุณสามารถแก้ไขได้ง่ายๆด้วยการเชื่อมต่อ Osmo Pocket เข้ากับพาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) แบบพกพา จะช่วยให้คุณสามารถชาร์จ Osmo Pocket พร้อมๆไปกับการบันทึกภาพและถ่ายวิดีโอได้อย่างต่อเนื่อง
เคล็ดลับสุดท้าย : เตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
ด้วยฟีเจอร์และความสามารถที่น่าทึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้ Osmo Pocket กลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับบรรดา Vlogger และผู้ใช้งานทั่วไปที่กำลังมองหากล้องสำหรับถ่าย Vlog ( สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความ อยากถ่าย Vlog ต้องอ่าน! 7 เทคนิค การเลือกซื้อกล้องที่มือใหม่ควรรู้ ) อีกทั้ง Osmo Pocket ได้รับการออกแบบให้เป็นกล้องสำหรับบันทึกภาพเหตุการณ์ในทุกช่วงเวลาอันน่าประทับใจ ไม่ว่าคุณจะวางแผนไว้หรือไม่ก็ตาม นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม Osmo Pocket จึงถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก เพื่อให้คุณสามารถพกพาไปได้ทุกที่และควักออกจากกระเป๋าเริ่มถ่ายภาพได้ทันทีโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมตรวจดูสิ่งของที่สำคัญ ทั้งกุญแจบ้าน สมาร์ทโฟน และแน่นอนสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ DJI Osmo Pocket!
DJI Osmo Pocket ราคาเพียง 12,500 บาท จากราคาเดิม 13,500 บาท
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : DJI
แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE
