กล้องแอคชั่นแคมเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย และบันทึกภาพขณะเดินทาง ซึ่ง DJI ได้เปิดตัวกล้องแอคชั่นแคมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง DJI OSMO ACTION 5 PRO พร้อมกับการพัฒนาและความแตกต่างที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับรุ่นเก่าอย่าง DJI OSMO ACTION 4
1. ความละเอียดและเซนเซอร์ภาพ ในส่วนของเซนเซอร์ภาพ DJI OSMO ACTION 5 PRO มาพร้อมกับเซนเซอร์ Next-Gen 1/1.3” CMOS ให้ความละเอียดสูงสุดถึง 40 MP ช่วยให้ภาพคมชัดและมีรายละเอียดที่ดีกว่ารุ่น DJI OSMO ACTION 4 ที่มีความละเอียดเพียง 9.98 MP ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคุณภาพของภาพที่สูงกว่าในการถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอที่มีรายละเอียดมากขึ้น
2. ความสามารถในการบันทึกวิดีโอ ทั้งสองรุ่นสามารถบันทึกวิดีโอได้ในความละเอียด 4K/120 fps ทำให้การถ่ายวิดีโอสมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องของความคมชัดและการบันทึกภาพเคลื่อนไหวอย่างราบรื่น แม้ว่าความละเอียดวิดีโอจะเท่ากัน แต่ด้วยเซนเซอร์ภาพที่พัฒนาใหม่ในรุ่น Action 5 PRO ทำให้คุณภาพของวิดีโอในสภาพแสงน้อยและการจัดการสีดีขึ้น
3. ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ในแง่ของระยะเวลาการใช้งาน DJI OSMO ACTION 5 PRO มีความทนทานมากกว่า ด้วยระยะเวลาการใช้งานสูงสุดถึง 240 นาที ซึ่งดีกว่ารุ่น Action 4 ที่ใช้งานได้เพียง 160 นาที นี่เป็นข้อดีที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานกล้องติดต่อกันในระยะเวลายาวนานโดยไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย
4. หน้าจอและการแสดงผล อีกหนึ่งจุดที่แตกต่างคือประเภทของหน้าจอ โดยรุ่น OSMO ACTION 5 PRO ใช้จอ OLED ซึ่งให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใส และประหยัดพลังงานมากกว่าหน้าจอ LCD ในรุ่น OSMO ACTION 4 ที่แม้จะใช้งานได้ดี แต่ในแง่ของคุณภาพการแสดงผลอาจไม่คมชัดเท่ารุ่นใหม่
5. มาตรการป้องกันสภาพแวดล้อม OSMO ACTION 5 PRO มาพร้อมกับมาตรการป้องกันแรงดันอากาศภายในกล้อง ทำให้กล้องทนทานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงแรงดันอากาศ เช่น ในการถ่ายทำใต้น้ำ หรือในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับความสูง ขณะที่รุ่น OSMO ACTION 4 ไม่ได้มาพร้อมกับฟังก์ชันนี้
6. พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน DJI OSMO ACTION 5 PRO ยังมาพร้อมกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายในถึง 47 GB ทำให้การถ่ายภาพและวิดีโอได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องพึ่งพาหน่วยความจำภายนอกเสมอ ในขณะที่ OSMO ACTION 4 ไม่มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายใน ทำให้ผู้ใช้ต้องพึ่งพาการใช้การ์ด MicroSD ในการบันทึกข้อมูล