รีวิว, สินค้า, แนะนำก่อนซื้อ

แกะกล่อง Osmo Mobile 2 เจาะลึก 4 ฟีเจอร์ใหม่ เทคโนโลยีที่ทันสมัย

หลังจากที่ DJI Osmo Mobile 2 มีวางจำหน่ายได้ไม่นาน กระแสตอบรับของผู้ใช้งานก็ยังคงอยู่ในด้านบวกเช่นเคย นับว่าเป็นการพัฒนาต่อยอดมาจาก Osmo Mobile รุ่นแรก ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่น่าแปลกใจเลย ที่จะได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ผมแนะนำว่าหากใครที่ยังไม่มีเจ้า Osmo Mobile 2 ติดมือไว้ระวังตกเทรนด์นะครับ

 

Osmo Mobile 2 ออกแบบมาให้สอดคล้องกับการใช้งานของกลุ่มคนที่นิยมใช้สมาร์ทโฟนในการถ่ายภาพหรือวีดีโอ รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบการ Live Streaming ไม่ว่าจะเป็น Facebook Live หรือ Youtube Live ช่วยเปลี่ยนสมาร์ทโฟนธรรมดาๆ ของคุณให้สามารถบันทึกภาพถ่ายออกมาได้สวยงามราวกับตากล้องมืออาชีพ และในวันนี้ผมจะมานำเสนอแบบเจาะลึกกับ 4 ฟีเจอร์ใหม่และสิ่งที่คุณจะได้รับจากการเป็นเจ้าของ Osmo Mobile 2

 

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบไปด้วย

1. Osmo Mobile 2
2. กล่องโฟมแบบแข็ง
3. สายชาร์จแบตเตอรี่
4. เอกสารคู่มือการใช้งาน

 

Osmo Mobile 2 จัดเก็บอยู่ภายในกล่องโฟม

 

Osmo Mobile 2 จะอยู่ในสภาพดีและปลอดภัยสำหรับการขนส่งและเก็บรักษา

 

Osmo Mobile 2 มีอะไรใหม่?

การดีไซน์ของ Osmo Mobile 2 มีลักษณะคล้ายกันกับรุ่นก่อน จึงอาจทำให้หลายๆคนสงสัยว่า จะมีอะไรที่แตกต่างจากรุ่นก่อนบ้าง ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะมีการปรับปรุงในเรื่องของสีแล้ว DJI ได้มีการปรับปรุงดีไซน์ของตัวยึดสมาร์ทโฟน ปรับปรุงการทำงานของมอเตอร์แต่ละแกน รวมไปถึงด้ามจับที่มีการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น และคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้การใช้งาน Osmo Mobile 2 ร่วมกับสมาร์ทโฟนของคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับทุกความต้องการในการใช้งานของคุณ

แผงควบคุมแบบใหม่

การดีไซน์แผงควบคุมบนด้ามจับแบบใหม่ของ Osmo Mobile2 จะช่วยให้คุณควบคุมและใช้งานได้ง่ายขึ้น เพื่อให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆได้โดยใช้เพียงนิ้วหัวแม่มือของคุณ เพิ่มการใช้งานของปุ่มพาวเวอร์และปุ่มปรับโหมดการใช้งานให้เป็นปุ่มเดียวกัน เพื่อให้คุณสามารถสลับไปมาระหว่างโหมดติดตามกับโหมดล็อกตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วโดยการกดปุ่ม 1 ครั้ง และสามารถปรับศูนย์ของกิมบอลโดยการกดปุ่ม 2 ครั้งติดกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถสลับใช้กล้องหน้า-หลังได้โดยการกดปุ่ม 3 ครั้งติดกัน และหากคุณต้องการปิด-เปิดเครื่อง คุณสามารถทำได้โดยการกดค้างไว้เป็นเวลา 1.5 วินาที ปรับปรุงไฟแจ้งระดับแบตเตอรี่แบบใหม่ช่วยให้คุณเห็นปริมาณของแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ตลอดเวลา

 

ดีไซน์แผงควบคุมใหม่

ปุ่มสไลด์สำหรับซูม

มีการดีไซน์ให้มีปุ่มสำหรับใช้งานในการซูมกล้องเข้า-ออก มาไว้ที่ด้ามจับ แทนการซูมแบบเก่าที่ต้องสั่งงานผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน ทำให้คุณสะดวกในการใช้งานมากขึ้นโดยใช้เพียงนิ้วหัวแม่มือสไลด์ คุณจะได้ภาพถ่ายและวีดีโอที่ราบรื่นในทุกๆช็อตตามที่คุณต้องการ

 

ปุ่มสำหรับซูม

โหมดถ่ายภาพบุคคล

นอกจากการดีไซน์ของตัวยึดจับสมาร์ทโฟนแบบใหม่ที่แน่นหนาขึ้นแล้ว ตัวยึดสมาร์ทโฟนนี้ยังสามารถหมุนได้ 90 องศา เพื่อปรับสมาร์ทโฟนของคุณให้อยู่ในแนวตั้ง หรือแนวนอนได้ เพื่อใช้ถ่ายภาพหรือวีดีโอในแบบคุณที่ต้องการ จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนให้คุณในขณะที่คุณถ่ายเซลฟี่หรือไลฟ์สตรีมถ่ายทอดสด

 

ตัวยึดจับสมาร์ทโฟนในแนวตั้ง

น้ำหนักเบาและมีขนาดเล็กลง

Osmo Mobile 2 ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กลง และมีน้ำหนักเพียง 485 กรัม ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดของ DJI ด้วยวัสดุผสมแบบใหม่ที่นำมาใช้ในการผลิต ทำให้คุณพกพาและใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องน้ำหนักและระยะเวลาในการใช้งานอีกต่อไป เรียกได้ว่าคุณสามารถถือถ่ายทำได้ตลอดทั้งวัน

 

น้ำหนักเบาและกะทัดรัด

แบตเตอรี่ภายใน

แบตเตอรี่ของ Osmo Mobile 2 นั้นมีการออกแบบให้อยู่ภายในตัวเครื่อง (Built in) และไม่สามารถถอดเปลี่ยนเองได้ ปรับปรุงเรื่องปริมาณความจุ ให้สามารถใช้งานได้นานถึง 15 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่า Osmo Mobile รุ่นแรกถึง 3 เท่า *การปรับสมดุลของกิมบอลก่อนการใช้งานจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่และช่วยลดการทำงานของมอเตอร์ลง

 

พอร์ตสำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่

พอร์ต USB

แบตเตอรี่ของ Osmo Mobile 2 นั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานของตัวเครื่องอย่างเดียว ด้วยความจุของแบตเตอรี่ที่สูงขึ้น คุณสามารถใช้สายเคเบิล เสียบเข้ากับพอร์ต USB ที่บริเวณด้ามจับใช้สำหรับชาร์จไฟเข้าสมาร์ทโฟนของคุณ หลังจากการใช้งานในระหว่างวัน หากแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนของคุณเหลือไม่เพียงพอต่อการใช้งาน สามารถเสียบชาร์จได้ทันทีเหมือนพาวเวอร์แบงค์ดีๆนี่เอง

 

พอร์ต USB สำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน

รูยึดแบบเกลียวสำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริมแบบมาตรฐาน

Osmo Mobile 2 จะมีรูยึดแบบเกลียวที่ด้านล่างมาให้เหมือนกับกล้องทั่วไป จะช่วยให้สามารถใช้งานร่วมกันกับขาตั้งกล้อง Monopods และชุดอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ซึ่งรวมถึงฐานรอง Osmo Mobile 2 Base ที่ได้รับการออกแบบใหม่ซึ่งมีสกรูที่ด้านล่างสำหรับยึดจับได้พอดีและเหมาะแก่การใช้งานมากยิ่งขึ้น

 

ฐานรอง Osmo Mobile 2 Base

 

เจาะลึก 4 ฟีเจอร์ใหม่

ฟังก์ชันการทำงานอัจฉริยะ

แน่นอนว่า Osmo Mobile 2 ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจาก Osmo Mobile รุ่นแรก ทั้งด้านคุณสมบัติ ฟังก์ชันการทำงานที่มีความเป็นอัจฉริยะยิ่งขึ้น ทั้งโหมดการถ่ายภาพนิ่ง รวมถึงโหมดการถ่ายวีดีโอภาพเคลื่อนไหว เช่นการถ่ายวีดีโอ Slow-Motion การถ่ายภาพนิ่งในโหมด Long-Exposure และการถ่ายภาพพาโนรามาแบบอัตโนมัติ

 

บันทึกภาพถ่ายทุกๆการท่องเที่ยวของคุณ

โหมดการถ่าย Hyperlapse

นอกเหนือจากโหมด Timelapse และ Motionlapse ที่เคยมีให้ใช้งานอยู่แล้วสำหรับรุ่นแรก Osmo Mobile 2 มีโหมดการถ่ายภาพแบบใหม่ที่นับว่าเป็นจุดเด่นเลยก็ว่าได้ คือโหมดการถ่าย Hyperlapse โดยการใช้งานโหมดนี้จะคล้ายกันกับโหมด Timelapse แต่จะต่างกันตรงที่คุณจะสามารถถ่ายภาพในขณะที่คุณเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระในระหว่างการถ่ายภาพ

โหมดการถ่าย ActiveTrack

โหมด ActiveTrack เป็นฟีเจอร์อัจฉริยะที่ถูกพัฒนาให้มีความแม่นยำมากขึ้น ที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพโดยล็อคตำแหน่งไปที่วัตถุหรือบุคคลที่คุณต้องการได้ โดยการแตะลากกรอบสี่เหลี่ยมสีเขียวบริเวณวัตถุหรือบุคคลที่คุณเลือก จากนั้นกล้องจะแพนติดตามวัตถุหรือบุคคลนั้นในขณะที่มีการเคลื่อนไหว โหมดนี้จะช่วยให้การเซลฟี่และการวีดีโอสตรีมมิ่งของคุณดูมีความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น

โหมดการถ่าย Dolly Zoom

เมื่อคุณมีปุ่มสำหรับใช้ซูมกล้องเข้า-ออก ที่ด้ามจับ โดยใช้เพียงนิ้วหัวแม่มือสไลด์เบาๆ คุณจะสามารถเลื่อนซูมภาพได้อย่างง่ายดาย จะช่วยให้คุณสามารถถ่ายวีดีโอที่สวยงามและสร้างลูกเล่นให้กับงานวีดีโอของคุณได้ ราวกับว่าคุณใช้เอฟเฟค Dolly Zoom ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ระดับฮอลลีวู้ดที่เราพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่ผมได้กล่าวมา ทำให้ Osmo Mobile 2 เป็นเครื่องมืออันดับต้นๆที่ผู้ใช้งานมักนึกถึงและเลือกมาใช้ในงานเสมอ เพราะจะช่วยเพิ่มความสามารถในการสร้างงานวีดีโอให้กับสมาร์ทโฟนของคุณ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพได้อย่างราบรื่น และที่สำคัญมันราคาถูกกว่ารุ่นแรก โดย Osmo Mobile 2 มีราคาเพียง 5,000 บาทเท่านั้น

 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : DJI
แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE