เปรียบเทียบ

เปรียบเทียบ Mavic Air 2 Vs Mavic Air คุ้มไหมถ้าเราจะอัพเกรด?

ล่าสุดกับ DJI Mavic Air 2 โดรนอเนกประสงค์ ประสิทธิภาพสูง รุ่นพกพา ที่พึงเปิดตัวไปเมื่อ วันที่ 28 เม.ย. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่พวกเรา DJI13Store ได้ รีวิวแกะกล่อง DJI Mavic Air 2 และ รีวิวจุดเด่น DJI Mavic Air 2 ให้แฟนๆ ทุกท่านได้ชมกันไปแล้ว วันนี้เราเลยจะมา รีวิวเปรียบเทียบระหว่าง Mavic Air 2 Vs Mavic Air รุ่นก่อน ว่าแตกต่างกันอย่างไร และมีอะไรใหม่ให้เราต้องอัพเกรดกันบ้างครับ

ภาพรวมระหว่าง Mavic Air 2 และ  Mavic Air

 

 

Mavic Air 2 VS  Mavic Air

ดีไซน์ใหม่ ทันสมัย

สัมผัสแรกที่เราเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจนเลยคือ เรื่องของดีไซน์ Mavic Air 2 ใช้การออกแบบเดียวกับ Mavic 2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการออกแบบขั้นสูงสำหรับโดรนรุ่นพกพาของ DJI จึงทำให้มีน้ำหนักตัวมากกว่า Mavic Air รุ่นก่อนอยู่เล็กน้อย แต่ในเรื่องของการพกพาจัดเก็บ รวมถึงการดูแลรักษา ทำได้สะดวกมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน

 

 

ประสิทธิภาพกล้องสูงขึ้น

Mavic Air 2 ให้ชุดกล้องเซนเซอร์ 1/2 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอ ความละเอียด 4K 60fps และรองรับการถ่าย HDR ซึ่งเมื่อเทียบกับ Mavic Air รุ่นก่อนแล้ว Mavic Air 2 ให้ภาพที่ลื่นไหล สวยคมชัด และเก็บรายละเอียดได้มากกว่าหลายเท่า เหมือนเป็นการขยับจากกล้องมือสมัครเล่นเป็นกล้องสำหรับมือโปรเลยทีเดียว

 

 

ประสิทธิภาพการบิน

อีกหนึ่งพัฒนาที่เห็นได้ชัด คือเรื่องของประสิทธิภาพการบิน Mavic Air 2 บินได้ไกลสุดถึง 10 กม. และบินได้นานถึง 34 นาที ในขณะที่ Mavic Air รุ่นก่อน บินไกลเพียง 4 กม. และนาน 21นาที เท่านั้น

 

 

ฟีเจอร์ถ่ายภาพและโหมดการบินอัจฉริยะ

 

ระบบบินหลบหลีกสิ่งกรีดขวาง

Mavic Air 2 อัพเกรดระบบบินหลบหลีกตัวใหม่ APAS 3.0 ทำให้เซนเซอร์ทั้ง 3 จุด ด้านหน้า ด้านหลัง และ ด้านล่าง สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้ไกลถึง 22 เมตร จากเดิมที่ Mavic Air รุ่นก่อนทำได้เพียง 12 เมตร

 

FocusTrack

Mavic Air 2 ใช้ระบบ tracking ติดตามตัวแบบใหม่ Active track 3.0 พร้อมระบบบินรอบวัตถุ POI 3.0 และทีเด็ดโหมด Spotlight 2.0 ล็อกวัตถุให้อยู่กลางเฟรมทุกครั้งขณะถ่าย ซึ่งช่วยเพิ่มลักษณะการใช้งานหลากหลายมากกว่า Mavic Air รุ่นก่อน

 

HDR (High Dynamic Range)

ฟังก์ชั่นถ่ายภาพและวีดีโอรูปแบบใหม่ HDR  เทคโนโลยีซ่อนภาพแบบ HDR ปรับแสงเงาของภาพให้สมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ได้ภาพที่สวยคมชัด พร้อมรายละเอียดแสงสีที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมีให้ใช้เฉพาะใน Mavic Air 2 เท่านั้น

SmartPhoto

รวม 3 เทคโนโลยีถ่ายภาพไว้ในช็อตเดียว HDR ซ้อนภาพให้ได้แสงเงาที่เหมาะสม  HyperLight  เพิ่มความคมชัดในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย และการจำแนกฉากเพื่อปรับพารามิเตอร์ของกล้องให้เหมาะสมที่สุด โดยอ้างอิงจากฉากตามธรรมชาติ พระอาทิตย์ตก,ท้องฟ้า,หญ้า,หิมะและต้นไม้ ซึ่งแน่นอนว่า ฟังก์ชั่นนี้ให้ใช้เฉพาะใน  Mavic Air 2 อีกเช่นกัน

 

8K Hyperlapse

เก็บรายละเอียดองค์ประกอบภาพได้อย่างคมชัดและครบถ้วนยิ่งขึ้น ด้วยมาตฐานความคมชัดใหม่ 8K Hyperlapse ที่มีให้สัมพัสเฉพาะใน Mavic Air 2

QuickShots

โหมดบินถ่ายวีดีโอแบบอัตโนมัตยอดนิยม 6 รูปแบบ Dronie, Circle, Helix, Rocket, Boomerang และ Asteroid ยังคงมีให้ใช้กันอีกเช่นเคย สำหรับ Mavic Air 2

App

Mavic Air 2 ทำงานร่วมกับแอพพิเคชั่น DJI Fly ซึ่งเป็นแอพตัวใหม่ที่จะใช้กับโดรน DJI รุ่นใหม่ที่จะผลิตหลังจาก 2020 เป็นต้นไป จึงมั่นใจได้ว่าจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ๆ อัพเดตให้ใช้อยู่เสมอ ในขณะที่ Mavic Air รุ่นก่อน ยังคงใช้แอพ DJI Go แบบเก่าอยู่

 

สรุปภาพรวม

จุดเด่นที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ Mavic Air 2 ใช้ชุดกล้องใหม่

ถ่ายภาพและวีดีโอได้ละเอียด คมชัด ลื่นไหลมากขึ้น ระบบการบินที่ ไกล ยาวนาน และปลอดภัยมากกว่ารุ่นก่อน และฟังก์ชั่นซัพพอร์ตการทำงานพิเศษที่มีให้ใช้เฉพาะใน Mavic Air 2 เท่านั้น

ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในเรื่องของเทคโนโลยี หรือหลงใหลในอากาศยานไร้คนขับที่เรียกว่า “โดรน” แล้วละก็ Mavic Air 2 คือสิ่งที่คุณกำลังมองหา คุ้มค่าที่จะอัพเกรดมาไว้ใช้งานอย่างแน่นอนครับ

 

Mavic Air 2 ราคาเพียง 25,900 บาท

รายละเอียดสินค้า >> Mavic Air 2 Single

 

 

Mavic Air 2 Fly More Combo ราคาเพียง 34,900 บาท

รายละเอียดสินค้า >> Mavic Air 2 Fly More Combo

 

 

พิเศษ!! ซื้อพร้อมส่วนลด 50% สำหรับ Service plus ราคา 2,500 บาท จากปกติ 5,000 บาท (ประกันเครื่อง 2 ปี )

 

Mavic Air 2 single + Service Plus ประกัน 2 ปี 28,400 บาท

รายละเอียดสินค้า >>  Mavic Air 2 single + Service Plus

 

 

Mavic Air 2 Combo + Service Plus ประกัน 2 ปี 37,400 บาท

รายละเอียดสินค้า >> Mavic Air 2 Combo + Service Plus

 

 

 


แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE