เปรียบเทียบสเปคโดรน DJI รุ่นล่าสุด พร้อมสรุปโดรนรุ่นแนะนำปี 2022 ซื้อโดรนรุ่นไหนดี เราได้เปรียบเทียบเจาะลึกความแตกต่างของโดรน DJI แต่ละรุ่นในด้านต่างๆ แบบ #โพสต์เดียวจบ เพื่อให้คุณสามารถเลือกโดรนที่ตรงใจ เหมาะสมกับงบประมาณ และตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด #อยากได้โดรนสักลำ ให้เรา DJI 13 Store ดูแลคุณ พร้อมแนะนำสอนการใช้งานโดยทีมงานมืออาชีพ ด้วยประสบการณ์ดูแลบริการลูกค้ายาวนานกว่า 7 ปี
แนะนำโดรนรุ่นยอดนิยม ปี 2022
นับตั้งแต่ช่วงปี 2021 จนถึงปี 2022 ทาง DJI บริษัทโดรนชั้นนำของโลก ได้เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ออกมาหลากหลายรุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
สุดยอดโดรนถ่ายภาพระดับไฮเอนด์อย่างรุ่น DJI Mavic 3 ที่มาพร้อมกล้อง Hasselblad กับกล้อง Tele และ DJI Mavic 3 Cine Premium Combo ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Apple ProRes 422HQ สมบูรณ์แบบทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ สำหรับมืออาชีพ
โดรนรุ่น DJI Air 2S ที่พัฒนาขยายขีดความสามารถ อัพเกรดต่อยอดมากจากโดรนรุ่นก่อนอย่าง DJI Mavic Air 2
โดรนรุ่น DJI Mini 3 Pro เป็นโดรนไซส์เล็ก ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น มีให้เลือก 2 แพ็กเกจ คือรีโมทคอนโทรล DJI RC-N1 ที่ใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน และแบบรีโมทคอนโทรล DJI RC พร้อมหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แถมยังสามารถเลือกซื้อแบตเตอรี่ Plus เพื่อเพิ่มระยะเวลาการบินได้ถึง 47 นาที อีกด้วย
โดรนรุ่น DJI Mini 2 เป็นโดรนไซส์เล็ก ที่ต้องบอกว่าเป็นโดรนรุ่นขายดี และเป็นที่ต้องการของผู้ใช้ไม่ว่าจะนักบินโดรนมือใหม่ไปจนถึงมืออาชีพก็ต้องมีติดกระเป๋าใว้เป็นแก็ดเจ็ตยอดนิยมที่ขาดไม่ได้ในเวลาออกท่องเที่ยว
น้ำหนักตัวเครื่อง
หากเทียบกันด้วยสายตา เราอาจจะพอมองออกว่า โดรนรุ่นไหนของ DJI ที่น้ำมีน้ำหนักเบาที่สุดและรุ่นไหนมีน้ำหนักมากกว่า ด้วยขนาดตัวลำของโดรนในขณะพับอยู่หรือกางออก แน่นอนว่า DJI ได้ออกแบบมาเป็นอย่างดีแล้ว ทั้งขนาดของโดรน ขนาดของมอเตอร์ ขนาดของใบพัด และส่วนต่างๆทั้งหมด ที่มีผลกับประสิทธิภาพของการบิน เมื่อเทียบกับน้ำหนักของโดรนแต่ละรุ่น
อันดับที่ 1 โดรนรุ่น DJI Mini 2 และ DJI Mini 3 Pro มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 249 กรัม
อันดับที่ 2 โดรนรุ่น DJI Air 2S มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 595 กรัม
อันดับที่ 3 โดรนรุ่น DJI Mavic 3 มีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 895 กรัม
สำหรับโดรนที่มีขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบานั้น จะเน้นการทำงานที่คล่องตัว ช่วยในเรื่องการพกพา ลดภาระเรื่องน้ำหนักสัมภาระ ในขณะเดินทาง
เซ็นเซอร์กล้อง
โดรนแต่ละรุ่นของ DJI จะมีขนาดเซ็นเซอร์กล้องที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่แล้วในวงการช่างถ่ายภาพทั่วไปว่า เซนเซอร์กล้องนั้นยิ่งมีขนาดใหญ่จะทำให้มีขนาดของรูรับแสงที่ใหญ่ขึ้น แสงก็เข้าไปยังรูรับแสงได้มากกว่า คุณภาพของไฟล์ก็ย่อมดีกว่า มีสัญญานรบกวนหรือ Noise ที่น้อยกว่า สำหรับโดรนที่มีขนาดเซ็นเซอร์กล้องใหญ่ที่สุดคือ
อันดับที่ 1 โดรนรุ่น DJI Mavic 3 ขนาดเซนเซอร์ 4/3′′ CMOS
อันดับที่ 2 โดรนรุ่น DJI Air 2S ขนาดเซนเซอร์ 1′′ CMOS
อันดับที่ 3 โดรนรุ่น DJI Mini 3 Pro ขนาดเซนเซอร์ 1/1.3′′ CMOS
อันดับที่ 4 โดรนรุ่น DJI Mini 2 ขนาดเซนเซอร์ 1/2.3′′ CMOS
แน่นอนว่าเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่สามารถให้ภาพที่มีคุณภาพดีกว่าก็จริง แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย เมื่อเทียบกับคุณภาพของภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ออกมานั้น โดรนแต่ละรุ่นก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆกับราคาที่ต้องจ่ายไป
ภาพนิ่งและวีดีโอ
อันดับที่ 1 โดรนรุ่น DJI Mavic 3 มาพร้อมกล้อง Hasselblad ขนาดเซ็นเซอร์ 4/3′′ ความละเอียด 20MP ถ่ายวิดีโอสูงสุด 5.1K กับกล้อง Tele ขนาดเซนเซอร์ 1/1.2′′ ความละเอียด 12MP ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
อันดับที่ 2 โดรนรุ่น DJI Air 2S มาพร้อมกล้องขนาดเซนเซอร์ 1′′ ความละเอียด 20MP ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
อันดับที่ 3 โดรนรุ่น DJI Mini 3 Pro มาพร้อมกล้องขนาดเซนเซอร์ 1/1.3′′ ความละเอียด 48MP ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
อันดับที่ 4 โดรนรุ่น DJI Mini 2 มาพร้อมกล้องขนาดเซนเซอร์ 1/2.3′′ ความละเอียด 12MP ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
การใช้งานแบตเตอรี่
อันดับที่ 1 โดรนรุ่น DJI Mavic 3 บินได้นานสูงสุด 46 นาที
อันดับที่ 2 โดรนรุ่น DJI Air 2S และ DJI Mini 3 Pro บินได้นานสูงสุด 34 นาที
อันดับที่ 3 โดรนรุ่น DJI Mini 2 บินได้นานสูงสุด 31 นาที
ระยะพิสัย
อันดับที่ 1 โดรนรุ่น DJI Mavic 3, DJI Air 2S และ DJI Mini 3 Pro บินได้ไกลสุด 8 กิโลเมตร
อันดับที่ 2 โดรนรุ่น DJI Mini 2 บินได้ไกลสุด 4 กิโลเมตร
ความเร็ว
อันดับที่ 1 โดรนรุ่น DJI Mavic 3 ความเร็วสูงสุด 78 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อันดับที่ 2 โดรนรุ่น DJI Air 2S ความเร็วสูงสุด 68.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
อันดับที่ 3 โดรนรุ่น DJI Mini 2 และ DJI Mini 3 Pro ความเร็วสูงสุด 57.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ต้านทางความเร็วลม
โดรนรุ่น DJI Mavic 3, DJI Air 2S, DJI Mini 3 Pro และ DJI Mini 2 ต้านทางแรงลม 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมง