รีวิว

Mavic Air กับ 6 ฟีเจอร์สุดเจ๋ง ที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างลงตัว

โดรนรุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ DJI ที่มาพร้อมกับความฉลาดล้ำ และฟังก์ชั่นใหม่ๆ อีกมากมาย เพื่อตอบรับความต้องการของนักบินโดรนมากยิ่งขึ้น DJI Mavic Air ถูกออกแบบมาให้มีรูปร่างเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวกด้วยการพับขาแล้วเก็บเข้ากระเป๋า สามารถพกติดตัวไปกับเราได้ทุกที่ Mavic Air ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักเดินทาง ที่ชอบท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ กลุ่มนักบินมือใหม่ ที่กำลังมองหาความท้าทาย ตลอดจนกลุ่มนักธุรกิจการถ่ายภาพ ที่กำลังมองหาความแตกต่าง เพื่อใช้ต่อยอดธุรกิจ และกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบโดรนทั่วไป ด้วย 6 คุณสมบัติพิเศษสุดเจ๋ง ดังต่อไปนี้

 

 

1. พาโนราม่า 360 องศา ความละเอียดสูง

32MP Sphere Panoramas
นอกเหนือจากการถ่ายภาพพาโนราม่าแบบเดิมๆ ที่มีการถ่ายแบบแนวนอน ถ่ายแบบแนวตั้ง และถ่ายแบบ 180 องศาแล้ว Mavic Air ยังเป็นโดรนที่สามารถถ่ายภาพพาโนราม่าทรงกลม 360 องศา ด้วยความละเอียดสูงสุดถึง 32 ล้านพิกเซล โดยการถ่ายภาพทั้งหมด 25 รูป ภายในเวลาเพียง 8 วินาที และคุณยังสามารถดูภาพจากมุมมองที่สมจริงด้วย DJI Goggles ได้อีกด้วย

 

2. พกพาสะดวก ขนาดเล็กและพับได้

Foldable & Portable
เพื่อตอบรับความต้องการของนักบินโดรนรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ทำให้ Mavic Air ถูกออกแบบมาให้มีรูปร่างเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวกด้วยการพับขาแล้วเก็บเข้ากระเป๋า สามารถติดตัวไปกับคุณได้ทุกที่ ทุกเวลา การดีไซน์ของ Mavic Air ที่ทำให้มีขนาดเล็กทั้งความกว้างและความสูง เมื่อพับเก็บจะมีขนาดเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนที่ใช้งานกันทั่วไป มันทำให้คุณไม่ลืมที่จะพก Mavic Air ติดตัวไปท่องเที่ยวอีกเลย

 

3. ป้องกันการสั่น 3 แกน และกล้อง 4K

3-Axis Gimbal & 4K Camera
โดรนขนาดพกพาที่มาพร้อมกับระบบกิมบอลที่มีแกนกันสั่น 3 แกน หมุนอิสระทำให้ตัวกล้องตั้งตรงคงที่ ไม่สั่นไหวแม้ในขณะที่โดรนกำลังเคลื่อนที่ ภาพถ่ายและวีดีโอของคุณจะมีความสมจริงยิ่งขึ้นอย่างมืออาชีพ Mavic Air ยังสามารถถ่ายทำวีดีโอด้วยความละเอียดสูงสุดถึงระดับ 4K 30 เฟรมต่อวินาทีโดยบันทึกที่ 100 Mbps เพื่อจับภาพทุกวินาทีของคุณด้วยคุณภาพแบบ UHD อีกทั้งคุณยังสามารถปรับลดความละเอียดลงได้ตามที่คุณต้องการ

 

4. เซ็นเซอร์ตรวจจับ สภาพแวดล้อม 3 ทิศทาง

3-Directional Environment Sensing
ระบบเซ็นเซอร์ที่ชัดเจนของโดรน DJI Mavic Air ที่อยู่ในกล้องทั้ง 7 ตัว โดยกล้องหลักด้านหน้าตัวลำทำหน้าที่คอยสร้างภาพนิ่งความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและวีดีโอความละเอียดระดับ 4K จะถูกเชื่อมโยงกับกล้องตัวที่เหลือเพื่อใช้นำทางและหลบหลีกสิ่งกีดขวาง อีก 6 ตัว ถูกจัดเรียงไว้เป็นคู่ๆที่ด้านหน้า ด้านหลัง และใต้ตัวลำ ช่องว่างระหว่างกล้องจะช่วยสร้างมุมมองที่แตกต่าง และ Mavic Air ยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดที่ช่วยสร้างแผนที่ 3 มิติ ทำให้จับภาพที่มีความลึกตื้นที่แตกต่างกัน ช่วยให้การนำทางและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดียิ่งขึ้น

 

5. สมาร์ทแคปเจอร์ สั่งการถ่ายภาพด้วยมือ

Smart Capture
เป็นโหมดการใช้งานที่ถือเป็นจุดเด่นของโดรน Mavic Air เลยทีเดียว DJI ได้พัฒนาขีดความสามารถของการสั่งงานและควบคุมโดรนด้วยฝ่ามือและท่าทางให้ดีกว่ารุ่นก่อน การตอบสนองจากการสั่งงานมีความแม่นยำและรวดเร็ว มีคำสั่งในการทำงานเพิ่มมากขึ้นและระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับท่าทางที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการสั่งงานให้ตัวโดรนบินขึ้นจากพื้น การควบคุมทิศทาง และระยะทาง คำสั่งถ่ายภาพวีดีโอแบบติดตามวัตถุที่มีการเคลื่อนที่ คำสั่งถ่ายภาพเซลฟี่ทั้งแบบเดี่ยวและแบบกลุ่ม ตลอดจนคำสั่งให้โดรนลงจอดอย่างปลอดภัย

 

6. เวลาบินสูงสุด 21 นาที

21-Minute Max Flight Time
ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบแบตเตอรี่ของ Mavic Air ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูง ทำให้คุณเพลิดเพลิน สนุกสนาน และตื่นเต้น ด้วยระยะเวลาการบินสูงสุดถึง 21 นาที ต่อ 1 เที่ยวบิน และคุณไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่จะหมดโดยที่คุณไม่รู้ตัว เพราะโดรนทุกรุ่นของ DJI มีระบบการแจ้งเตือนปริมาณคงเหลือของแบตเตอรี่อัตโนมัติ รวมถึงระบบการบินกลับและลงจอดให้เองแบบอัตโนมัติ เพียงคุณสั่งงานด้วยปุ่มฟังก์ชั่นที่ตัวรีโมทคอนโทรลเท่านั้นเอง


แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE