แนะนำก่อนซื้อ

DJI Osmo Action กล้องคู่กายสำหรับผู้เริ่มต้นถ่าย Vlog ปี 2020

Osmo Action ที่สุดของกล้องแอคชั่นแคม ประจำปี 2020 หลายคนอาจคิดว่า โอ้โห้! อวยกันเกินไปรึปล่าว DJI พึ่งจะลงมาลุยตลาดแอคชั่นแคมไม่ใช่หรอ จะสู้เจ้าตลาดที่เค้ามีมาแล้ว หก.. เจ็ด.. แปด.. รุ่นได้ยังไงกัน!

 

 

มันก็จริงอยู่ครับ แต่อย่าลืมนะว่าก่อนหน้านั้น DJI เค้าเป็นเจ้าตลาดโดรนและอุปกรณ์กิมบอล มาสิบกว่าปีแล้ว เรื่องเทคโนโลยีนี้ต้องบอกเลยว่ามีความล้ำเกินกล้องแอคชั่นแคมไปแล้วครับ แต่การจะแย่งส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดเก่าได้นั้นนอกจากความสามารถที่เทียบเท่า แล้ว ก็ต้องมีจุดเด่นที่เหนือกว่าด้วย

 

แล้วจุดที่เหนือกว่ากล้องแอคชั่นอื่นๆ จนทำให้ Osmo Action กลายเป็นแอคชั่นแคมที่ดีที่สุดในปี 2020 นั้นจะมีอะไรบ้าง DJI13Store จะพาไปชมกันครับ

 

 

หน้าจอแสดงผล 2 จอ ด้านหน้าและด้านหลัง

คุณเคยประสบปัญหา เวลาถ่ายเซลฟี่แล้วตัวคุณเองหลุดเฟรมไหมครับ แน่นอนว่าเคยเป็นกันทุกคน เพราะจอแสดงผลของกล้องแอคชั่นทั่วไปมันอยู่ด้านหลังอย่างเดียว เราเลยไม่รู้ว่าตอนนี้ภาพในเฟรมเป็นยังไงบ้าง Osmo Action เลยเพิ่มจอแสดงผลด้านหน้ามาให้ อยากได้มุมไหน แสงเงาเป็นอย่างไร เรายังอยู่ในแฟรมหรือไม่ ทีนี้รู้หมด สาย Vlog กด LIKE! กันรัวๆเลยละครับ

 

แบตอึด ทำงานได้นาน 110 นาที

แบตเตอรี่ 1 ก้อน ของ Osmo Action สามารถใช้ถ่ายวีดีโอได้นานสูงสุดถึง 110 นาที เทียบง่ายๆ ว่าเราสามารถถ่ายการแข่งขันฟุตบอลตั้งแต่เริ่ม Kick Off  ยาวไปจนถึงช่วงทดเวลาบาทเจ็บ จนต่อเวลาพิเศษ แล้วจบที่ยิงจุดโทษได้เลยละครับ แล้วค่อยเปลี่ยนก้อนใหม่ อึดพอไหมล่ะ

 

แล้วที่หลายๆคน บอกว่า Osmo Action แบตเตอรี่แพง ก้อนละ 750 บาท และไม่มีแบตเตอรี่เทียบเท่าถูกๆ ให้ซื้อ นั่นก็เพราะตอนนี้มันยังใหม่อยู่ แล้วก็เป็นรุ่นแรก แต่อีกไม่นานรับรองว่ามีแน่นอนครับ ว่าแต่ถ้าแบตเตอรี่อึดขนาดนี้ จะซื้อหลายๆก้อนไปทำไมกัน เอาตังไปซื้อเมมโมรี่การ์ดเพิ่มดีกว่า..เนอะ

 

 

Cinematic Footage 16:9

นี้คือผลจากประสบการณ์อันยาวนานด้านงานโปรดักชั่น ของ DJI อย่างแท้จริง ขณะที่แอคชั่นแคมตัวอื่นๆ ล็อคไว้แค่เฟรมแบบ 4:3 แต่ Osmo Action เพิ่มเฟรมแบบ 16:9 มาให้ ทำให้สามารถถ่ายวีดีโอแนวภาพยนต์ หรือ Cinematic ได้ทันทีในตัว เพียงแค่เราเลือกไปที่เฟลมแบบ 16:9  แล้วเปิดโหมด RockSteady / Dewarp / D-CineLike ง่ายๆ แค่นี้เอง เราก็ได้ Footage ที่เหมาะสำหรับเอาไปตัดต่อแล้วละครับ

 

RockSteady / Dewarp / D-CineLike

ต่อจากข้างบน 3 โหมดที่ทำให้วีดีโอของเราเพอร์เฟคดูเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น

RockSteady คือโหมดกันสั่น ซึ่งต่างประเทศยกให้เป็นกันสั่นที่ดีที่สุดในกล้องแอคชั่นแคมปัจจุบัน โดยเราขอแนะนำให้เปิดมันทุกครั้ง เพราะเวลาถ่ายทำ ภาพที่ได้จะออกมาสวยงาม สมูท ลื่นไหล แม้ในขณะกำลังเคลื่อนที่

 

 

Dewarp โหมดลดการบิดเบี่ยวของภาพ แอคชั่นแคมส่วนใหญ่จะใช้เลนส์มุมกว้าง (Wide Angle Lens) คนที่เล่นกล้องจะรู้ดีว่าปัญหาของเลนส์ประเภทนี้ คือเวลาถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ใกล้เลนส์มากๆ จะโค้งตามมุมของเลนส์ หรือที่เรียกกันว่า Fisheye ซึ่ง Dewarp จะปรับสมดุลให้มุมภาพตรงขึ้น ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ช่วยให้ภาพและวีดีโอของเราดูสมจริงมากยิ่งขึ้น

 

 

D-CineLike โหมดปรับโทนสีของวีดีโอให้เหมาะสำหรับการตัดต่อ คือเวลาถ่ายวีดีโอ ตัว Footage เราจะมีสีดรอปลงมาหน่อย ไม่ฉูดฉาดเหมือนโหมดปกติ เวลาเอาไปตัดต่อ เราก็จะสามารถ Grading สีของวีดีโอเหล่านั้นได้ง่ายขึ้น

 

 

กันน้ำลึกสูงสุด 11 เมตร

สำหรับสายแอคชั่นใต้น้ำ หรือเน้นกิจกรรมทางน้ำเป็นหลัก ต้องถูกใจ Osmo Action อย่างแน่นอน เพราะในตลาดตอนนี้ ยังไม่มีกล้องตัวไหนดำน้ำได้ลึกเท่านี้ และยังมีเคสกันน้ำพิเศษเฉพาะสำหรับดำน้ำลึก ซึ่งทำให้เราถ่ายใต้น้ำได้ลึกถึง 60 เมตร แต่อย่าลืมติดด้ามจับลอยน้ำไปด้วยนะครับ เผื่อหลุดไม้หลุดมือไปจะได้ไม่ต้องเหนื่อยงมหาครับผม

 

 

และสุดท้ายทั้งหมดที่ได้กล่าวมาคือสิ่งที่ Osmo Action สามารถทำได้เหนือกว่ากล้องแอคชั่นรุ่นอื่นๆ ส่วนเรื่องการใช้งานทั่วไป อะไรที่แอคชั่นแคมรุ่นอื่น ทำได้ Osmo Action ก็สามารถทำได้เช่นกัน สำหรับใครที่กำลังสนใจ “Osmo Action  แอคชั่นแคมที่ดีที่สุดในปี 2020” สามารถหาข้อมูลเพิ่มจากทั้งทางเว็บไซต์ DJI13Store และทาง Facebook : DJI13Store Page โดยเราจะอัพเดทข้อมูลสินค้าใหม่ๆ, เคล็ดลับและเทคนิคการใช้งาน และเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพ ให้ได้รับชมกันอย่างต่อเนื่องครับผม

 

Osmo Action ราคา 12,000 บาทเท่านั้น

 

 


แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE