เทคนิค

เคล็ด (ไม่) ลับ ถ่ายภาพทิวทัศน์ให้สวย ด้วย DJI Mavic 2 Pro

ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าจะต้องหลงใหลการถ่ายภาพบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ที่แสนสวยงามด้วยเช่นกัน DJI Mavic 2 Pro จัดเป็นไอเทมสำหรับการถ่ายภาพทางอากาศที่ดีที่สุด เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวนิยมพกติดตัวไปด้วยในทุกทริปการเดินทาง สำหรับวันนี้ DJI13Store ขอแนะนำเคล็ดลับการถ่ายภาพสวยๆ พร้อมกับการบันทึกเรื่องราวต่างๆด้วยโดรน DJI Mavic 2 Pro รวมถึงเทคนิคการตกแต่งภาพด้วยโปรแกรม Exposure X4 รุ่นใหม่ล่าสุด

 

Mavic 2 Pro โดรนบังคับพร้อมกล้อง Hasselblad

 

 

เมื่อเร็วๆนี้ DJI ได้เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ล่าสุด DJI Mavic 2 Pro และ DJI Mavic 2 Zoom ด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่าโดรนรุ่นก่อนอย่าง Mavic Pro ทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วในการเลือกซื้อโดรนรุ่นนี้ เพื่อใช้สำหรับออกทริปท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นนักบินโดรนมือใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่การเป็นช่างถ่ายภาพทางอากาศมืออาชีพก็ตาม Mavic 2 Pro นับว่าเป็นโดรนรุ่นที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เรียบง่าย โดดเด่นไม่เหมือนใคร และเป็นมุมมองภาพถ่ายแบบใหม่ที่ได้จากโดรนไม่แพ้ภาพถ่ายจากกล้อง DSLR หรือ Mirrorless เลย นอกจากนี้การถ่ายภาพทางอากาศด้วยโดรนเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ ช่วยให้คุณได้เห็นมุมมองใหม่ๆระหว่างทริปการเดินทาง รวมถึงได้เห็นภาพถ่ายจากโดรนที่ปกติไม่ได้หาดูง่ายๆ ด้วยฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Mavic 2 Pro จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการถ่ายภาพ และกำลังจะเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน

 

Mavic 2 Pro คุณภาพของการถ่ายภาพที่เหนือระดับ

 

 

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดของ DJI Mavic 2 Pro คือคุณภาพของภาพถ่าย โดรนรุ่นก่อนอย่าง DJI Mavic Pro นั้นสามารถถ่ายภาพด้วยความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ซึ่งในขณะนั้นถือว่าเป็นโดรนรุ่นที่ดีมากรุ่นหนึ่ง แต่คุณภาพของภาพถ่ายที่ได้อาจยังไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับกล้อง DSLR และ Mirrorless ทั่วไป แต่จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปเมื่อมี Mavic 2 Pro รุ่นใหม่นี้ที่มาพร้อมกับกล้อง Hasselblad ที่สามารถถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซลและเซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว รองรับโปรไฟล์สี 10-bit Dlog-M ทำให้สามารถจับภาพสีได้มากขึ้น เพื่อความยืดหยุ่นในการแก้ไขตกแต่งภาพ

 

 

การอัพเกรดคุณภาพของกล้องที่สามารถถ่ายภาพด้วยความละเอียด 20 ล้านพิกเซลถือเป็นการพัฒนาที่ยอดเยี่ยมของโดรนถ่ายภาพทางอากาศและช่วยให้คุณสามารถใช้งานโดรนให้เข้ากับการทำงานที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากคุณต้องการซูมภาพ ตัดภาพ หรือขยายภาพที่ถ่ายด้วย Mavic 2 Pro คุณจะไม่สูญเสียคุณภาพของภาพถ่ายอีกต่อไป นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกถ่ายภาพได้ทั้ง 2 แบบคือ JPEG และ RAW เก็บไว้ที่เมมโมรี่การ์ดเผื่อเอาไว้สำหรับการตัดสินใจเลือกในภายหลัง ทำให้คุณมีอิสระมากขึ้นในการสร้างสรรค์ผลงาน ( สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากบทความ JPEG vs RAW แตกต่างกันอย่างไร? )

 

ภาพนี้คือภาพที่ถ่ายจากน้ำตก Skogafoss ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบในการแสดงถึงคุณภาพของภาพถ่ายจากโดรนรุ่น DJI Mavic 2 Pro ซึ่งภาพถ่ายที่คุณเห็นนี้เป็นภาพที่ยังไม่ได้ผ่านการตกแต่งใดใด เมื่อคุณมองครั้งแรกคุณจะเห็นได้ถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของภาพนี้

 

 

โชคดีที่ Mavic 2 Pro มาพร้อมกับกล้องคุณภาพสูง ทำให้การครอปตัดภาพในจุดที่คุณต้องการไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของภาพถ่าย หากคุณต้องการได้ภาพของน้ำตก Skogafoss ในแนวตั้ง แน่นอนว่าคุณจะต้องครอปตัดบางส่วนของภาพออกไป และนี่คือภาพถ่ายที่ผ่านการครอปแล้ว อย่างที่คุณเห็นคุณภาพของภาพนั้นไม่ได้ลดลงเลย องค์ประกอบของภาพโดยรวมยังคงดูสดใสและมีความคมชัด จนคุณสามารถมองห็นแกะตัวเล็กในภาพได้อย่างชัดเจน

 

 

ในบางครั้งการตัดบางส่วนของภาพออกก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าจะถ่ายจากกล้องทั่วไปหรือภาพที่ถ่ายจากโดรน อย่างที่คุณเห็นเมื่อครอปภาพถ่ายที่ยังไม่ผ่านการตัดต่อนี้ไปเรื่อยๆ จนเหลือเพียงภาพน้ำตกอย่างเดียวนั้น คุณภาพของภาพนี้ก็ยังคงดีอยู่ ทุกๆอย่างตั้งแต่รายละเอียดของน้ำตกไปจนถึงแนวหน้าผาที่รายล้อมต่างมีความคมชัด คุณภาพของภาพแทบจะไม่ลดลงไปเลยเมื่อเทียบกับภาพต้นฉบับ นี่เป็นข้อพิสูจน์ถึงคุณภาพในการถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยมของ Mavic 2 Pro หากคุณเป็นช่างถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR อยู่แล้ว แต่อยากหันมาลองถ่ายภาพทางอากาศดู ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องลองใช้งานโดรน DJI Mavic 2 Pro จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังอย่างแน่นอน! ( อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความ รีวิว Mavic 2 Pro กับข้อมูลเชิงลึกก่อนตัดสินใจซื้อ )

 

 

Mavic 2 Pro ในพื้นที่ที่มีแสงน้อย

ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการถ่ายภาพจากโดรน Mavic 2 Pro แม้แต่น้อย ต่อไปนี้จะเป็นการทดสอบฟีเจอร์ใหม่ของ Mavic 2 Pro สำหรับใช้ถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีแสงน้อย HyperLight ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มคุณภาพของภาพและวิดีโอโดยการลดจุดรบกวนหรือ Noise ที่มักจะเกิดขึ้นในภาพ และสิ่งที่น่าสนใจกว่านี้ Mavic 2 Pro มีช่วง ISO ที่กว้างขึ้นตั้งแต่ 100-12,800 ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการถ่ายในที่มืดหรือในพื้นที่ที่มีแสงน้อย ในขณะที่โดรนรุ่นก่อนอย่าง Mavic Pro มีช่วง ISO อยู่ที่ 100-3,200 ทำให้เราเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน ภาพถ่ายด้านล่างนี้ เนื่องจากยังคงมีแสงเล็กน้อยหลงเหลืออยู่ในกลุ่มเมฆ จำเป็นต้องถ่ายด้วยโหมด M (Manual Mode) ก่อนและจะนำภาพมาตกแต่งสีและแสงเพิ่มเติมด้วยโปรแกรม Exposure X4

 

 

เพื่อพิสูจน์ถึงคุณภาพในการบันทึกภาพในที่แสงน้อยของ Mavic 2 Pro ว่าดีแค่ไหน จึงได้ทำการครอปตัดภาพบางส่วนออก เมื่อสังเกตภาพที่ผ่านการตัดแล้ว คุณยังคงสามารถเห็นรายละเอียดและคุณภาพของภาพได้อย่างชัดเจน ทั้งเส้นถนน แม่น้ำและชายหาดรวมถึงก้อนหินตามแนวชายหาด ซึ่งทำให้ภาพที่ได้จากฟีเจอร์ HyperLight ยังคงมีคุณภาพที่น่าประทับใจ และนอกจากนี้ Mavic 2 Pro ยังมีฟีเจอร์เสริมที่เรียกว่า Tripod Mode ที่จะช่วยลดความเร็วของโดรนให้อยู่ที่ประมาณ 3.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ง่ายต่อการบันทึกภาพในเวลากลางคืนและพื้นที่ที่มีแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น

 

 

ตกแต่งภาพถ่ายจาก Mavic 2 Pro ด้วย Exposure X4

Alien Skin ได้พัฒนาโปรแกรม Exposure มาตลอดหลายปี โดยรุ่นล่าสุดคือ Exposure X4 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆมากมาย เช่นเครื่องมือการแปลงไฟล์ RAW เครื่องมือการปรับโทนสี โหมดจัดการรูปภาพอัจฉริยะรวมถึงเอฟเฟกต์อื่นๆอย่างการเพิ่มและหมุนปรับเปลี่ยนภาพ ทำให้ Exposure X4 จัดเป็นโปรแกรมตกแต่งภาพที่ยอดเยี่ยม ซึ่งต่อไปนี้คือการทดสอบใช้โปรแกรม Exposure X4 และฟีเจอร์ใหม่ๆกับภาพถ่ายที่ได้จาก Mavic 2 Pro

 

ปรับเงาและจุดไฮไลท์สำคัญด้วย Exposure X4

ภูเขา Vestrahorn ตั้งอยู่แนวชายฝั่งของประเทศไอซ์แลนด์ ที่มีเงาปกคลุมบดบังไปทั่วภูเขา เมื่อเงาพวกนี้จางลงไป ก็ได้พบกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของเทือกเขาที่ยาวเหยียด ทำการถ่ายภาพนี้ด้วย DJI Mavic 2 Pro ในโหมด M (Manual Mode) ประเภทไฟล์ RAW ในขณะที่บันทึกภาพนั้นท้องฟ้าปิด ทำให้รายละเอียดบางส่วนหายไป ภาพถ่ายข้างล่างนี้เป็นภาพตัวอย่างที่ยังไม่ได้ตกแต่งใดใด

 

 

จากนั้นใช้ฟีเจอร์ใหม่จากโปรแกรม Exposure X4 เพื่อช่วยปรับรายละเอียดที่หายไปบริเวณท้องฟ้า และฟีเจอร์ที่ดีที่สุดนี้คือ Shadow และ Highlight Recovery การทำให้เงาหายไปและใช้ไฮไลท์ในการทำให้รายละเอียดสำคัญของภาพกลับมา เมื่อเปิดภาพภูเขา Vestrahorn ผ่านโปรแกรม Exposure X4 และปรับแต่งเงาและไฮไลท์ใหม่ ก็จะสามารถทำให้รายละเอียดที่หายไปกลับมาได้อีกครั้ง ภาพต่อไปนี้จะทำให้คุณเห็นถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงของความสวยงามระหว่างภาพถ่ายก่อนและหลังจากการปรับแต่ง

 

 

การจัดชั้นเลเยอร์ใน Exposure นี้มีประโยชน์มากไม่เหมือนกับโปรแกรมอื่นๆทั่วไป Exposure รองรับการสร้างเลเยอร์เหมือนโปรแกรม Photoshop เมื่อมาพร้อมกับเครื่องมือที่ช่วยจัดการไฟล์ RAW และฟีเจอร์อื่นๆ ทำให้ Exposure ยิ่งเป็นเครื่องมือสำหรับตกแต่งภาพที่มีประสิทธิภาพสูง โดยภาพด้านล่างนี้ จะสังเกตเห็นที่มุมขวาบนของภาพมีการใช้เลเยอร์มากมายเพื่อช่วยในการปรับแต่งภาพ

 

 

แน่นอนว่าการใช้เลเยอร์หลายๆเลเยอร์นี้จะช่วยให้สามารถเห็นรายละเอียดบนผิวน้ำ ท้องฟ้า และหาดทรายได้มากยิ่งขึ้น ทำให้ภูเขาและหาดทรายสีดำเงาดูโดดเด่น เพื่อไม่ให้องค์ประกอบอื่นๆในภาพเสียไป จำเป็นต้องใช้เลเยอร์เข้ามาช่วยนั่นเอง ในทำนองเดียวกันหากต้องการให้โทนสีของท้องฟ้าและพื้นน้ำมีความลึกดูเป็นมิติมากขึ้น แต่ก็ไม่อยากทำให้โทนสีอื่นๆในภาพเสียไป ก็สามารถใช้เลเยอร์มาช่วยในการแก้ไขได้ ทำให้ภาพที่ถ่ายจากโดรน Mavic 2 Pro ดูสดใส สวยงาม และโดดเด่นมากยิ่งขึ้น คุณยังจำภาพที่ถ่ายก่อนหน้านี้ได้ไหม? Mavic 2 Pro ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีแสงน้อย เนื่องจากโดรนรุ่นนี้มาพร้อมกับกล้อง Hasselblad ที่เป็นจุดเด่นของ DJI Mavic 2 Pro นั่นเอง มาดูกันว่าโปรแกรม Exposure X4 สามารถทำอะไรได้บ้าง ด้านล่างนี้เป็นภาพถ่ายที่ยังไม่ได้ผ่านการปรับแต่ง

 

 

การปรับแต่งภาพถ่ายที่แสงน้อยด้วยโปรแกรม Exposure อันดับแรกเราต้องเพิ่มแสงให้ภาพสว่างขึ้นโดยการใช้เครื่องมือ Exposure Slider และ Tone Curve ช่วยให้ปรับรายละเอียดตามแนวเส้นโค้งได้ ซึ่งจะทำให้สามารถตกแต่งภาพได้อย่างที่ใจต้องการ เมื่อทำการเพิ่มแสงสว่างให้ภาพแล้ว จะสังเกตเห็นบริเวณมุมซ้ายล่างของภาพ ที่มีตัวเลือกการปรับแต่งภาพแบบต่างๆมากมาย หรือจะเลือกสร้างในแบบที่เป็นตัวเองก็ได้เช่นเดียวกัน และยังสามารถบันทึกตัวเลือกที่คุณสร้างเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อๆไปได้

 

 

นอกจากนี้คุณสามารถใช้เครื่องมือ Tone Curve ในการทำให้ภาพมืดลง และใช้เลเยอร์มาช่วยเพิ่มสีบริเวณที่อยากจะให้โดดเด่นกว่า แต่หากคุณไม่ต้องการทำแบบนี้ คุณสามารถตั้งค่า Vignette ใน Exposure ได้ตามที่คุณต้องการ เนื่องจากภาพนี้ถูกถ่ายหลังจากมืดแล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับให้มันสว่างมากนัก เพราะนั่นอาจทำให้คุณภาพของภาพถ่ายจาก Mavic 2 Pro เสียไป คุณลองใช้เครื่องมือเช่น HSL, Curves, Layers, และ White Balance จากโปรแกรม Exposure X4 เพื่อทำให้ภาพกลับมาดูมีชีวิตชีวาขึ้นในแบบที่ไม่หลอกตา หรือดูสว่างจ้าเกินไป และนี่คือภาพถ่ายที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว

 

 

บทสรุปและคำแนะนำเพิ่มเติม

การแก้ไขและตกแต่งภาพผ่านโปรแกรม Exposure X4 นั้นช่วยให้เราดึงสีสันความสดใสของโทนสีและรายละเอียดต่างๆออกมาได้อย่างชัดเจน จากภาพถ่ายมุมสูงของวิวทิวทัศน์ บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ ตามสถานที่ต่างๆด้วย Mavic 2 Pro แม้ในบางครั้งอาจจะไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีนัก ด้วยคุณสมบัติมากมายที่กล่าวมาข้างต้นและประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าโดรนรุ่นก่อนๆ ทำให้ DJI Mavic 2 Pro เป็นที่ต้องการของบรรดาช่างถ่ายภาพ ผู้ที่รักการท่องเที่ยว ตลอดจนผู้ใช้งานมือใหม่ไปจนถึงช่างถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ยอมควักกระเป๋าเป็นเจ้าของโดรนยอดฮิตรุ่นนี้ ดังคำกล่าวที่ว่า “ของมันต้องมี”

 


 

DJI Mavic 2 Pro ราคา 56,500 บาท

 

 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : DJI
แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE

Shopping cart
Start typing to see posts you are looking for.
สินค้า
Sidebar
รายการที่สนใจ
0 items ตะกร้าสินค้า
บัญชีผู้ใช้งาน