เทคนิค

5 วิธี ถ่ายภาพ Time-Lapse อย่างไรให้แหวกแนว ด้วย Osmo Pocket

DJI Osmo Pocket สามารถถ่าย Timelapse และ Motionlapse ด้วยวิธีการตั้งค่าง่ายๆเพียงไม่กี่วินาทีจนทำให้คุณรู้สึกทึ่ง คุณสามารถตั้งกล้องไว้ในจุดที่เหมาะสมเพื่อบันทึกการเคลื่อนไหวของสิ่งต่างๆ เช่น ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้นหรือดวงอาทิตย์ตก ช่วงเวลาที่รถกำลังแล่นสวนกันไปมา หรือแม้กระทั่งขณะที่มีคนเดินสัญจร นอกจากนี้คุณยังสามารถปรับหมุนมุมกล้องขณะที่กำลังทำการบันทึกอยู่ ทำให้เกิดเป็นความรู้สึกของการเดินทางผ่านช่วงเวลา และ 5 วิธีการถ่ายภาพ Timelapse ต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับวิดีโอของคุณ

วิธีที่ 1 การเร่งเวลาให้เร็วขึ้น

ช่วงเวลาถือเป็นสิ่งสำคัญในการบันทึกภาพ การเลือกช่วงเวลาที่ดี มีผลต่อคุณภาพของวิดีโอ Timelapse ของคุณ

 

»หากต้องการถ่าย Timelapse ในช่วงเวลากลางวันจนถึงกลางคืน คุณต้องเริ่มจากช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ใกล้จะตกดิน และคอยบันทึกภาพที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

✓หากคุณมีเวลาจำกัด มีอีกวิธีที่ง่ายกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน นั่นก็คือให้คุณตัดสินใจว่าจะใช้ฉากและมุมมองแบบไหนในการบันทึกภาพ จากนั้นถ่ายวิดิโอสั้นๆสองวิดีโอ โดยทำการถ่ายทั้งในตอนกลางวันและตอนกลางคืน จากนั้นนำวิดีโอทั้งสองนั้นมาตัดต่อเข้าด้วยกัน

✓หากคุณเปิดเล่นวิดีโอแบบย้อนกลับ คุณจะได้ผลลัพธ์ของวิดีโอเสมือนการย้อนเวลา

 

วิธีที่ 2 กล้องกำลังกินอะไรบางอย่าง

มันคงจะดูน่าสนใจไม่น้อย ถ้าได้ภาพที่ดูเหมือนว่ากล้องกำลังกิน อาหารสุดโปรดของคุณอยู่

 

»ภาพลวงตาที่ถ่ายจากกล้องนอกจากจะสนุกแล้วยังมีวิธีทำที่ง่ายดาย

✓วาง DJI Osmo Pocket ของคุณไว้บนโต๊ะ แล้วสลับไปที่โหมด Timelapse แนะนำให้คุณตั้งเวลาถ่าย (Interval) ไว้ที่ 3 วินาที

✓เมื่อเริ่มถ่าย ให้คุณถืออาหารสุดโปรดของคุณด้วยสองมือ ให้มีระยะห่างจากกล้องประมาณ 15 เซ็นติเมตร พร้อมขยับมือเข้าหากล้อง ทุกๆ 3 วินาที

 

✓เมื่ออาหารครอบคลุมมุมมองของกล้อง ให้รีบกัดและนำอาหารไปวางไว้หน้ากล้องเหมือนเดิม และค่อยๆถ่ายแบบเดิมต่อไป

✓หลังจากถ่ายเสร็จแล้ว อย่าลืมตัดช่วงที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันออกด้วย แอปพลิเคชัน DJI Mimo

 

วิธีที่ 3 เทเลพอร์ต

แม้แต่สิ่งของแสนธรรมดาที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างนาฬิกาในบ้านของคุณ ก็สามารถสร้างเอฟเฟกต์สุดพิเศษอย่างเทเลพอร์ตได้ บางฉากในภาพยนตร์มักจะใช้เอฟเฟกต์นี้โดยเฉพาะกับการหมุนของเข็มนาฬิกา

 

»เพื่อให้ได้ผลลัพธ์นี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือนำวิดีโอ Timelapse สองอันมาต่อเข้าด้วยกัน โดยตั้งนาฬิกาไว้ในสถานที่ต่างกันสองแห่ง จากนั้นใช้ Timelapse บน DJI Osmo Pocket พร้อมกับตั้งเวลาที่ต้องการถ่าย

✓เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์เทเลพอร์ตที่สมบูรณ์แบบ เพิ่มการหมุนภาพเข้าไปในขึ้นตอนการตัดต่อวิดีโอด้วย

 

วิธีที่ 4 พลิกกลับมุมมอง

เพียงถ่ายภาพผ่านลูกบอลแก้วและการหักเหของแสง จะเป็นตัวทำให้วิดีโอของคุณกลายเป็นภาพกลับด้านที่สมบูรณ์

 

»ขณะที่คุณตั้งค่าการบันทึกภาพ Timelapse ให้นำลูกบอลแก้วไปวางไว้หน้าวัตถุที่คุณต้องการ ปรับเปลี่ยนระยะห่างระหว่างลูกบอลกับวัตถุนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าภาพทั้งหมดจะไปตกกระทบบนลูกบอล

 

 

✓วาง Osmo Pocket โดยเว้นระยะห่างจากลูกบอลแก้ว ให้สามารถมองเห็นทุกองค์ประกอบที่ครบถ้วนจากลูกบอลแก้ว จากนั้นก็เริ่มการถ่ายทำได้

 

วิธีที่ 5 โหมด Hyperlapse

นอกจากโหมดการถ่ายภาพแบบ Timelapse และ Motionlapse แล้ว คุณยังสามารถใช้งานโหมด Hyperlapseได้อีกด้วย ซึ่งโหมดนี้คุณสามารถบันทึกภาพ Timelapse ได้ในขณะที่ตัวคุณกำลังเคลื่อนไหวไปมาอย่างอิสระ

 

»ขณะที่ทำการถ่าย ให้เปิดใช้งานโหมด ActiveTrack บน Osmo Pocket จากนั้นวาดกรอบตรงวัตถุที่ต้องการ แล้วเดินช้าๆเพื่อบันทึกภาพของวัตถุนั้น จากนั้นทำการเร่งความเร็วขึ้นในขั้นตอนการตัดต่อ เท่านี้ การบันทึกภาพโหมด Hyperlapse ของคุณ ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

 

ได้เรียนรู้วิธีการสร้างสรรค์ภาพต่างๆด้วย DJI Osmo Pocket ไปแล้ว คุณพร้อมที่จะลองลงมือทำหรือยัง? นำ Osmo Pocket ของคุณออกมาและไปลองทำอะไรใหม่ๆกันเลย!

 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก : DJI
แปลและเรียบเรียงโดย : DJI13STORE